เสน่ห์ของหลายเมืองรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออก คือส่วนผสมอันลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าพันปี ที่ปรากฏอยู่ในความงดงามอลังการของสถาปัตยกรรมที่ตั้งตระหง่านอยู่ในหลายเมือง บวกกับธรรมชาติอันสวยงามของน้ำทะเลสีสดตัดกับฟ้าครามเข้ม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายตลอดปี

 



ใครกันจะไม่ตกหลุมรักเมื่อได้สัมผัสเสน่ห์ของแต่ละเมืองในเส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกที่มีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา เริ่มตั้งแต่อารยธรรมและสถาปัตยกรรมอลังการของเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เมืองท่าสำคัญที่มักเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดหมายของการเดินทาง หรือผาหินปูนสูงใหญ่ เรียงรายด้วยอาคารบ้านเรือนสีสวยหวานของดินแดนยิบรอลตาร์ที่สุดปลายคาบสมุทรไอบีเรีย รวมถึงมาร์แซย์ ประตูสู่แคว้นโพรวองซ์ ของประเทศฝรั่งเศส มีแลนด์มาร์กเป็นมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์บนเนินเขาสูง ซึ่งผู้มาเยือนสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ทั่วทั้งเมือง

สิ่งที่คุณต้องเตรียมมีเพียงรองเท้าแตะ หมวกปีกกว้าง เสื้อผ้าเนื้อเบาสบาย ชุดว่ายน้ำตัวเก่ง และร่างกายที่แข็งแรง จะได้สนุกกับการพักผ่อนบนเรือสำราญที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และออกไปเดินเที่ยวให้ทั่วเมืองต่างๆ ในบรรยากาศที่ไม่ซ้ำกันเลยสักวัน

 

เส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวที่เรือสำราญ Princess Cruises และ Cunard มีความชำนาญเป็นพิเศษ และมีการจัดทริปท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือกตามความสนใจ อาทิ เส้นทางล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลอีเจียน ของ Princess Cruises ที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้ทบทวนวิชาประวัติศาสตร์แบบเต็มๆ เพราะนอกจากจะได้ใช้ชีวิตแสนสำราญบนเรือแล้ว ในแต่ละวันยังมี Shore Excursion ให้ได้แวะชมโบราณสถานทั้งโคลอสเซียม ป้อมปราการ และมหาวิหารต่างๆ อย่างจุใจ ไล่มาตั้งแต่กรุงโรม อิตาลี ไปจนถึงกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และแน่นอนว่าระหว่างทางต้องมีการแวะชิลเมืองริมหาดแสนสวยชวนหลงใหลด้วย

 

 

อีกเส้นทางหนึ่งของ Princess Cruises ที่คนรักงานสถาปัตยกรรมห้ามพลาด คือ เส้นทางล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลเอเดรียติก โดยเริ่มต้นที่กรุงเอเธนส์ ไปจบที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เส้นทางนี้คุณจะได้ไปเยือนเมืองต้นกำเนิดพิซซ่า อย่างเนเปิ้ลส์ ที่รุ่มรวยด้วยความงามของอาคารบ้านเรือนในสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟวิสุเวียสที่เคยกลืนเมืองปอมเปอีไปเมื่อหลายพันปีก่อน แล้วไปจบที่ความอลังการของอาณาจักรสเปน โดยหนึ่งในไฮไลต์คือเกาะซานโตรินีที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี

 

 


หากต้องการเพิ่มสีสันการเดินทางด้วยการเยี่ยมเยือนเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในหมู่คนไทย แนะนำให้เดินทางในเส้นทาง เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก โรม – เวนิซ ของ Cunard ที่นอกจากจะแวะเทียบท่าในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของอิตาลีอย่างโรมและเวนิซแล้ว คุณจะยังมีโอกาสได้แวะชมเมืองกอเตอร์ เมืองสุดสวยบรรยากาศราวเทพนิยาย ในประเทศมอนเตอเนโกร และเมืองดูบรอฟนิก เมืองโบราณของประเทศโครเอเชีย ที่ได้รับฉายาว่าเป็น "ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก" อีกด้วย

เลือกเส้นทางที่ตรงกับความสนใจและระยะเวลาที่ต้องการ แล้วเอ็นจอยไปกับการใช้ชีวิตพักผ่อนสุดคุ้มบนเรือสำราญ Princess Cruises หรือ Cunard พร้อมเติมกำไรให้ชีวิตด้วยการท่องเที่ยวในทุกเมืองท่าสุดประทับใจที่ช่วยเปิดประสบการณ์เดินทางครั้งใหม่แก่คุณ

 

 

Plan your trip

การเดินทางท่องเที่ยวรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสามารถทำได้ตลอดทั้งปี โดยเรือสำราญของ Princess Cruises เป็นเรือสไตล์โมเดิร์นขนาดใหญ่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรูหราและห้องพักหลากหลายรูปแบบ ที่สร้างความสะดวกสบายตลอดการเดินทางที่ยาวนานตั้งแต่ 7 ถึง 21 คืน ส่วน Cunard ให้บริการด้วยเรือสำราญสุดหรูในบรรยากาศหรูหราสไตล์ชนชั้นสูงอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นหนึ่งในความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน

ทริปแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาเดินทางอย่างน้อย 7 วัน โดยเส้นทางแนะนำคือ 7 Days Mediterranean & Aegean - Rome to Athens ของ Princess Cruises ที่ออกเดินทางจากโรมพาคุณไปเดินทอดน่องริมหาดในเมืองท่าเก่าแก่ซาแลร์โนที่หลายคนยกย่องว่าเป็นเฟรนช์ริเวียราของอิตาลี เยือนเมืองกอเตอร์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่างดงามราวเทพนิยาย แวะเกาะอันโด่งดังของกรีซ ทั้งเกาะคอร์ฟู เกาะครีต เกาะไมโคนอส ก่อนจบทริปที่กรุงเอเธนส์ที่น่าตื่นตะลึกทั้งในแง่ความงามและความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์

หรืออิ่มเอมไปกับบรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียนแบบสบายๆ ในเส้นทาง  7 days Mediterranean & Adriatic - Athens to Barcelona ที่เริ่มเดินทางจากเอเธนส์ แวะเมืองแสนสวยอย่างซานโตรินี กอเตอร์ หมู่เกาะซิซิลี เนเปิลส์ และจบทริปที่บาร์เซโลนา และถ้าคุณมีเวลามากพอ ทริป 10 days Mediterranean - Rome to Barcelona จะพาคุณออกเดินทางจากกรุงโรมไปชมมนต์เสน่ห์แห่งเมดิเตอร์เรเนียนที่แต่ละเมืองมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนยากจะลืมเลือน

หรือถ้าคุณอยากสัมผัสอีกอารมณ์ของการล่องเรืออย่างหรูหราสไตล์ชนชั้นสูงอังกฤษ แนะนำให้เดินทางไปกับเรือ Queen Victoria ของ Cunard ในเส้นทางไปกลับ 7 คืน West Mediterranean (Barcelona – Monte Carlo) ที่นอกจากจะได้สัมผัสประสบการณ์ทัวร์ในหลายเมืองเก่าอันน่าตื่นตะลึง และแวะเทียบท่ายังอาณาจักรเศรษฐีที่มอนติคาร์โลแล้ว บรรยากาศการพักผ่อนบนเรือยังเต็มไปด้วยความหรูหราอัดแน่นทุกอณู

What to explore

 

ด้วยความที่แต่ละเมืองในยุโรปเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และรายละเอียดเฉพาะตัว ที่หลายคนอาจจะอยากเที่ยวแบบเจาะลึกถึงบางชุมชนเป็นพิเศษ แนะนำให้ซื้อ Shore Excursion ซึ่งเป็นทัวร์ชายฝั่งแบบ one day trip เพื่อสำรวจแต่ละเมืองแบบไม่ต้องรีบร้อน โดยมีผู้เชี่ยวชาญนำทาง หรือถ้าคุณอยากสำรวจเมืองด้วยตัวเอง เรามีไฮไลท์ในแต่ละเมืองมาแนะนำ


Rome, Italy ไฮไลท์เด็ดหนีไม่พ้น โคลอสเซียม สนามประลองการต่อสู้และเวทีการแสดงสุดอลังการอายุกว่า 2,000 ปี ที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงไม่เคยแพ้ภัยธรรมชาติใดๆ ทำให้นักท่องเที่ยวยังคงได้ตะลึงไปกับ ไฮโปเจียม เครือข่ายห้องใต้ดินใต้พื้นสนามประลอง ที่ลัดเลาะไปตามเสาต่างๆ ถือเป็นการออกแบบผังสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความฉลาดของชาวโรมัน ส่วนใครที่อยากกลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง ควรแวะไปโยนเหรียญที่น้ำพุเทรวี แลนด์มาร์คอีกแห่งประจำเมืองที่งดงามด้วยประติมากรรมหินอ่อนตระการตา

Santorini, Greece เกาะซานโตรินีเกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อ 3,000 ปีก่อน ทำให้เกิดแอ่งหลุมขนาดใหญ่รูปพระจันทร์เสี้ยวขึ้นในทะเล ในศตวรรษที่ 13 ชาวเวนิสได้ตั้งชื่อซานโตรินีขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เซนต์ไอรีน และแม้จะเกิดเเผ่นดินไหวขึ้นหลายครั้ง อาคารสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ก็ได้รับการบูรณะให้คืนสภาพดังเดิม โดยมีเมืองฟีร่า เป็นเมืองท่าสำคัญมาตั้งเเต่โบราณ เเละเป็นจุดศูนย์กลางของร้านอาหารเเละเเหล่งท่องเที่ยวยามราตรี

Crete, Greece เกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะกรีกและใหญ่เป็นลำดับ 5 ในบรรดาเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ศูนย์กลางของอารยธรรมมิโนอัน ซึ่งผสมผสานวัฒนธรรมโรมัน เวเนเซียน ไบแซนไทน์ รวมถึงอาหรับ เข้าด้วยกันจนเกิดเอกลักษณ์ของตนเอง มีโบราณสถานอายุหลายพันปีที่ต้องไปเยือนคือ Knossos ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาะครีตเป็นที่รู้จักในนามยุทธภูมิอันดุเดือดระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรและพลร่มนาซี จึงอุดมไปด้วยป้อมปราการ โบสถ์เก่า น้ำพุโบราณ จัตุรัสเก่าแก่ และแทรกด้วยคาเฟ่เก๋น่านั่งเป็นระยะ

Naples, Italy สนุกไปกับการสำรวจ Centro Storico เขตเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเเบบอาร์ตนูโว เเละโบสถ์ที่มีความสวยงามด้วยศิลปะเชิงศาสนา เช่น โบสถ์ Capella Sansevero, โบสถ์ Gesu Nuovo, พระราชวังหลวงเนเปิลส์ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีอุโมงค์กรีกโบราณลึกลงไป 30 เมตร ที่มีความน่าสนใจเชิงประวัติศาสตร์ให้ศึกษาอีกด้วย

Corfu, Greece บรรยากาศบ้านเรือนบนเกาะคอร์ฟูคือ ส่วนผสมของศิลปะยุคกลางกับยุคใหม่ ผังเมืองคดเคี้ยวราวกับเขาวงกต ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ไปอีกแบบ แลนด์มาร์คที่ควรไปเยือน คือ พระราชวัง Achilleion ของสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธแห่งออสเตรีย ที่ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบริมทะเลโลเนียน แวดล้อมด้วยสวนสวยที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

Kotor, Montenegro เมืองทำเลดีที่ด้านหลังพิงภูเขา ด้านหน้าเป็นอ่าวติดทะเล ด้วยความที่กอเตอร์เคยเป็นศูนย์กลางการค้าในอดีต จึงมีกำแพงล้อมรอบเมืองเพื่อป้องกันการโจมตีของศัตรู และกำแพงนี้ก็ยังคงตั้งตระหง่านให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมเยือน ด้วยการเดินขึ้นไปบนกำแพงชมวิวเมืองในมุมสูงเป็นอาหารตา นำมาสู่คำกล่าวขานว่าเมืองนี้เป็นเมืองเก่าของยุโรปอีกแห่งที่มีบรรยากาศงดงามราวเทพนิยาย

Myconos, Greece เกาะแสนสงบที่เรียงรายด้วยเเนวกำเเพงสีขาวของบ้านหลังคาสีฟ้าสไตล์กรีซ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นชิลๆ เพื่อชมวัดเก่าแก่แห่งเมืองอาโนเมรา ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 รวมถึงกังหันลมมิโคนอส อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขา สลับกับการทำกิจกรรมอย่างว่ายน้ำ ดำน้ำ พายเรือ ฯลฯ บริเวณอ่าว Ornos แถมยังมีผับบาร์ริมหาดให้สนุกกันต่อยามค่ำคืน

Sicily, Italy เกาะทางตอนใต้ที่เคยเป็นเมืองตากอากาศประจำราชวงศ์แห่งจักรวรรดิโรมันในอดีต ปัจจุบันก็ยังมีสถานะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม โดยมีภูเขาไฟเอ็ธน่าที่ยังไม่ดับ เป็นตัวเรียกแขก รวมถึงโรงละครกรีกที่ยังคงใช้เป็นสถานที่แสดงดนตรีคลาสสิกอย่างสม่ำเสมอ

Athens, Greece ทำความรู้จักกรีซในมุมสูงจากบนภูเขา Mount Lycabettus ที่สามารถมองลงไปเห็นความงดงามของกรุงเอเธนส์ได้อย่างรอบด้าน ช่วยให้จินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองเเห่งนี้ในอดีตได้บรรเจิดยิ่งขึ้น และเยือนเมืองโบราณอะโครโพลิส ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าแห่งเทือกเขาโอลิมปัส ต่อด้วยวิหารพาร์เธนอน และวิหารโพไซดอนบน Cape Sounion ที่เป็นจุดชมวิวท้องทะเลอีเจียน เเละอ่าว Saronic ได้อย่างชัดเจน

Dubrovnik, Croatia ได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก มีกำแพงโบราณขนาดมหึมาตั้งตระหง่านเป็นปราการต้อนรับแขกผู้มาเยือน ซึ่งหลังจากถูกโจมตีเผาเสียหายทั้งเมืองก็ได้รับการบูรณะใหม่ จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ที่แค่ได้เดินเล่นชมเมืองก็เพลิดเพลินไปกับทุกตรอกซอกซอย

Barcelona, Spain เยือนเนินเขา Montjuic แลนด์มาร์คประจำเมืองและเป็นที่ตั้งของโอลิมปิก สเตเดียม ประจำปี 1992 ต่อด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ปิคาสโซ ที่รวบรวมผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ระดับโลก อย่าง ปาโบล ปิคาสโซ ไว้ครบครัน ห้ามพลาดการเยี่ยมชมโบสถ์ Sagrada Familia หนึ่งในสถาปัตยกรรมงดงามตระการตาที่อยู่คู่เมืองมานานกว่าศตวรรษ