เส้นทางล่องเรือสำราญท่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีฟ้าครามเป็นหนึ่งในเส้นทางพักผ่อนยอดฮิตที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าการล่องเรือสำราญยังเส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกและตะวันออกจะให้อารมณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เส้นทางสายเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกอ้าแขนรับผู้มาเยือนด้วยสถาปัตยกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์เก่าแก่ พร้อมเมืองชายหาดกับหมู่เกาะสวยๆ และประเทศที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสไปท่องเที่ยวกันมากนัก เช่น มอนเตเนโกรหรือโครเอเชีย เสน่ห์ของเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกคือความโก้หรูและบรรยากาศสุดแสนประทับใจคล้ายเมืองในเทพนิยายของเมืองท่าต่างๆ ที่เรือสำราญเดินทางไปเยี่ยมเยือน

 

ใครกันจะไม่ตกหลุมรักเมื่อได้สัมผัสเสน่ห์ของแต่ละเมืองในเส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกที่มีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา เริ่มตั้งแต่อารยธรรมและสถาปัตยกรรมอลังการของเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เมืองท่าสำคัญที่มักเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดหมายของการเดินทาง หรือผาหินปูนสูงใหญ่ เรียงรายด้วยอาคารบ้านเรือนสีสวยหวานของดินแดนยิบรอลตาร์ที่สุดปลายคาบสมุทรไอบีเรีย รวมถึงมาร์แซย์ ประตูสู่แคว้นโพรวองซ์ ของประเทศฝรั่งเศส มีแลนด์มาร์กเป็นมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์บนเนินเขาสูง ซึ่งผู้มาเยือนสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ทั่วทั้งเมือง


 


เมืองท่าของอิตาลีในเส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกเป็นจุดหมายสำคัญที่คนรักงานศิลปะต้องหลงใหล ไม่ว่าจะเป็น เจโนวา (อ่านตามภาษาอิตาเลียน) หรือ เจนัว ที่ยังคงเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวยคลาสสิกให้ได้เดินเล่นพลางถ่ายรูปได้เพลินไม่รู้เบื่อ เมืองลิวอร์โน ที่โด่งดังเรื่องอาหารทะเล และการผสมผสานอย่างลงตัวของป้อมปราการและสถาปัตยกรรมยุคเรเนอซองส์ กับความเจริญของอาคารบ้านเรือนตามแบบฉบับของเมืองท่ายุคใหม่ เมืองนี้ยังเป็นประตูไปสู่แคว้นทัสคานีอันโด่งดัง ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมซื้อ Shore Excursion เพื่อเดินทางไปเยือนเมืองปิซาและฟลอเรนซ์กัน ก่อนจะจบทริปที่กรุงโรม ต้นกำเนิดอารยธรรมที่มีทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งและร้านกาแฟเก๋ๆ ให้ได้ชิลกันอย่างเต็มที่

 

 

การท่องเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกยังเป็นโอกาสที่จะได้ไปเยือนเมืองกอเตอร์ ประเทศมอนเตเนโกร ที่ถูกกล่าวขวัญกันว่าสวยเหมือนเทพนิยาย หรือเลือกละเลียดเวลาในแต่ละวันกันได้แบบยาวๆ เมื่อซื้อทัวร์ชายฝั่ง Shore Excursion เพิ่มเติม อาทิ หมู่เกาะคอร์ซิกา ประเทศฝรั่งเศส หมู่เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี ฯลฯ โดยคุณสามารถเลือกระยะเวลาในการสำรวจดินแดนแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกแห่งนี้ได้ว่า อยากจะอยู่สักหนึ่งสัปดาห์เพื่ออิ่มเอมกับความสนุกแบบพอหอมปากหอมคอ หรือใช้เวลานานกว่านั้นเพื่อให้เข้าถึงกลิ่นอายแห่งอารยธรรมของดินแดนแถบนี้ได้ดียิ่งขึ้น

 

 

Plan your trip

การเดินทางเยือนเมดิเตอร์เรเนียนสามารถทำได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือช่วงฤดูร้อน โดยทริปท่องเที่ยวรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันตกของ Princess Cruises และ Cunard มีเมืองท่าหลักที่เป็นจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และกรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งมีรายละเอียดเมืองที่เทียบท่าหลากหลายให้นักเดินทางเลือกได้ตามความสนใจและระยะเวลาที่ต้องการ

ระยะเวลาที่แนะนำสำหรับการล่องเรือท่องเที่ยวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันตกคือ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยเส้นทางแนะนำคือเส้นทาง 7 days Mediterranean - Barcelona to Rome ที่จะพาคุณออกเดินทางจากบาร์เซโลนาไปแวะยังเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยิบรอลตา มาร์แซย์ เจนัว ฟลอเรนซ์ และจบทริปที่กรุงโรม

หรืออิ่มเอมไปกับบรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียนแบบสบายๆ ในเส้นทาง  7 days Mediterranean & Adriatic - Athens to Barcelona ที่เริ่มเดินทางจากเอเธนส์ แวะเมืองแสนสวยอย่างซานโตรินี กอเตอร์ หมู่เกาะซิซิลี เนเปิลส์ และจบทริปที่บาร์เซโลนา

หากมีเวลามากพอ ทริป 10 days Mediterranean - Rome to Barcelona จะพาคุณออกเดินทางจากกรุงโรมไปชมมนต์เสน่ห์แห่งเมดิเตอร์เรเนียนที่แต่ละเมืองมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนยากจะลืมเลือน อาทิ เมืองกอเตอร์ เกาะคอร์ฟู ประเทศกรีซ เกาะคอร์ซิกา ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจบทริปที่บาร์เซโลนา

หรือถ้าคุณอยากสัมผัสอีกอารมณ์ของการล่องเรืออย่างหรูหราสไตล์ชนชั้นสูงอังกฤษ แนะนำให้เดินทางไปกับเรือ Queen Victoria ของ Cunard ในเส้นทางไปกลับ 7 คืน West Mediterranean (Barcelona – Monte Carlo) ที่นอกจากจะได้สัมผัสประสบการณ์ทัวร์ในหลายเมืองเก่าอันน่าตื่นตะลึง และแวะเทียบท่ายังอาณาจักรเศรษฐีที่มอนติคาร์โลแล้ว บรรยากาศการพักผ่อนบนเรือยังเต็มไปด้วยความหรูหราอัดแน่นทุกอณู

What to explore

 

เหล่านี้คือไฮไลท์เด่นในแต่ละเมืองตลอดเส้นทางล่องเรือเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก ที่เราไม่อยากให้คุณพลาด


Marseille, France เมืองหลวงแห่งใหม่ของแคว้นโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส สักการะมหาวิหาร Notre Dame สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเรือ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ทั่วเมือง

Corsica, France แผ่นดินเกิดของจักรพรรดินโปเลียน ที่ ณ​ ปัจจุบัน นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีธรรมชาติน่าชมอีกหลายจุด เช่น ป่า Vizzavona ที่อุดมไปด้วยต้นบีชและต้นสนนานาชนิด Prunelli Gorges ผาหินแกรนิตสีแดงแปลกตา ที่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน

Gibraltar, British Overseas Territory เมืองท่าทางตอนใต้สุดของคาบสมุทรไอบีเรีย ที่มีโขดหินแห่งยิบรอลตาร์ ผาหินปูนสูงใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นปราการด่านแรกในการต้อนรับแขกผู้มาเยือน ซึ่งภายในผาหินปูนแห่งนี้ยังมีถ้ำให้สำรวจมากกว่า 100 ถ้ำ หรือจะนั่งเคเบิลคาร์เพื่อชมทิวทัศน์ของทั้งฝั่งยุโรปและแอฟริกาก็สะดวกคุ้มค่าดี

Sicily, Italy เกาะทางตอนใต้ที่เคยเป็นเมืองตากอากาศประจำราชวงศ์แห่งจักรวรรดิโรมันในอดีต ปัจจุบันก็ยังมีสถานะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม โดยมีภูเขาไฟเอ็ธน่าที่ยังไม่ดับ เป็นตัวเรียกแขก รวมถึงโรงละครกรีกที่ยังคงใช้เป็นสถานที่แสดงดนตรีคลาสสิกอย่างสม่ำเสมอ

Genoa, Italy เจโนวา (อ่านตามภาษาอิตาเลียน) เป็นเมืองท่าทางทะเลที่มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณ เป็นบ้านเกิดของนักเดินเรือระดับโลกอย่างคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา และยังคงเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนแบบสถาปัตยกรรมเจนัวที่สวยคลาสสิกให้ได้เดินเล่นพลางถ่ายรูปได้เพลินไม่รู้เบื่อ

Dubrovnik, Croatia ได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก มีกำแพงโบราณขนาดมหึมาตั้งตระหง่านเป็นปราการต้อนรับแขกผู้มาเยือน ซึ่งหลังจากถูกโจมตีเผาเสียหายทั้งเมืองก็ได้รับการบูรณะใหม่ จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ที่แค่ได้เดินเล่นชมเมืองก็เพลิดเพลินไปกับทุกตรอกซอกซอย

Kotor, Montenegro เมืองทำเลดีที่ด้านหลังพิงภูเขา ด้านหน้าเป็นอ่าวติดทะเล ด้วยความที่กอเตอร์เคยเป็นศูนย์กลางการค้าในอดีต จึงมีกำแพงล้อมรอบเมืองเพื่อป้องกันการโจมตีของศัตรู และกำแพงนี้ก็ยังคงตั้งตระหง่านให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมเยือน ด้วยการเดินขึ้นไปบนกำแพงชมวิวเมืองในมุมสูงเป็นอาหารตา นำมาสู่คำกล่าวขานว่าเมืองนี้เป็นเมืองเก่าของยุโรปอีกแห่งที่มีบรรยากาศงดงามราวเทพนิยาย

Corfu, Greece บรรยากาศบ้านเรือนบนเกาะคอร์ฟูคือ ส่วนผสมของศิลปะยุคกลางกับยุคใหม่ ผังเมืองคดเคี้ยวราวกับเขาวงกต ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ไปอีกแบบ แลนด์มาร์คที่ควรไปเยือน คือ พระราชวัง Achilleion ของสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธแห่งออสเตรีย ที่ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบริมทะเลโลเนียน แวดล้อมด้วยสวนสวยที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี