แฟนคลับญี่ปุ่นทั้งหลาย เคยคิดเหมือนกันไหมว่าประเทศญี่ปุ่นช่างเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่สร้างความสุขให้เราได้ทุกทริป ไม่ว่าจะเดินทางไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังคงตื่นเต้นไม่เบื่อเสียที แต่บางครั้งก็คิดว่าคงจะแฮปปี้ได้กว่านี้อีก ถ้ามีเส้นทางใหม่ๆ เมืองเก๋ๆ เพิ่มเติมมาทำให้ทริปตื่นเต้นขึ้นบ้าง

 

ความพิเศษอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นคือมีภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะที่ล้อมรอบด้วยทะเล คงจินตนาการกันได้ไม่ยากว่าการลัดเลาะตามอ่าวต่างๆ ไปโผล่ที่เมืองท่าแต่ละแห่งจะเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและแปลกตาขนาดไหน รับรองได้ว่าจะมีมุมถ่ายรูปใหม่ๆ ที่ใครๆ ไม่เคยเห็นมาก่อนให้ได้โพสต์อวดเพื่อนๆ แน่


โดยเฉพาะถ้าเดินทางไปกับเรือ Princess Cruises ที่เป็นผู้บุกเบิกเรือสำราญในเส้นทางญี่ปุ่น และมีทริปมากมายหลากหลายให้เลือก รวมถึงทริปที่จัดวันเดินทางให้ตรงกับเทศกาลสำคัญของญี่ปุ่นอันสุดแสนจะน่าตื่นตาตื่นใจ หลายๆ เมืองที่เรือสำราญของ Princess Cruises จะพาไปแวะเที่ยวจึงอาจจะเป็นเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก แต่ไม่ว่าใครๆ ที่เคยได้ไปเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเปิดประสบการณ์สุดๆ และไม่ผิดหวังเลยที่มาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยเรือสำราญ



 

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องชูป้ายไฟให้การเที่ยวด้วยเรือสำราญ ก็คือการได้เที่ยวหลายเมืองสุดๆ โดยไม่เหนื่อย เพราะระหว่างการเดินทางเราก็ชิลบนเรือได้เต็มที่ ต่างจากการเที่ยวด้วยเครื่องบินหรือขับรถเที่ยวซึ่งนอกจากจะเพลียกับการเดินทางแล้ว เวลาเปลี่ยนที่พักแต่ละเมืองก็เหนื่อยสุดๆ แต่อยู่บนเรือนี่เราไม่ต้องเก็บกระเป๋าอะไรเลยจนกว่าจะจบทริป

 

 

เรือที่จะพาทุกคนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นในทุกทริปนี้ก็เป็นเรือที่ไม่ธรรมดา Diamond Princess เป็นเรือที่หรูหราและสะดวกสบายตามมาตรฐานของ Princess Cruises อยู่แล้ว แต่พิเศษขึ้นอีกตรงที่ถูกปรับบริการและกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

 

 

กิจกรรมบนเรือมีทั้งโชว์การร่ายรำแบบญี่ปุ่นโบราณ เพิ่มเติมจากโชว์ระดับบรอดเวย์และละครเพลงมิวสิคัล ที่คอยให้ความบันเทิงแก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษ Exclusively on Diamond Princess® คือ Izumi Spa ออนเซ็นตำรับญี่ปุ่นแท้ซึ่งหาไม่ได้ในเรือลำอื่น โดยมีบริการทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ ซึ่งวิวมหาสมุทรตรงหน้าช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้นไปอีก และแน่นอนว่าต้องมีอาหารตำรับญี่ปุ่นแท้ โดยห้องอาหาร Kai Sushi เสิร์ฟซูชิ ซาชิมิ ระดับพรีเมียม นอกเหนือจากห้องอาหารพิเศษอื่นๆ ได้แก่ ห้องอาหารอิตาเลียน Sabatini ที่ได้รางวัล “Best Cruise Ship Specialty Restaurants” จาก USA TODAY และ Sterling Steakhouse ที่ได้รับการโหวตให้เป็น “Best Cruise Ship Steakhouses” โดยผู้อ่าน USA TODAY

 

Plan your trip

เส้นทางแนะนำสำหรับคนที่ชอบชิลสบายๆ เน้นพักผ่อนเก๋ๆ อยู่บนเรือและแวะเที่ยวเฉพาะเมืองท่าเด่นๆ เป็นหลัก ได้แก่ Circle Hokkaido, Circle Japan และ Taiwan & Japan ที่ออกเดินทางจากกรุงโตเกียวและสิ้นสุดทริปที่เมืองเดียวกัน

ถ้าชอบแวะเที่ยวสถานที่แปลกใหม่ แนะนำเส้นทาง Japan Explorer ที่ออกเดินทางและสิ้นสุดทริปที่เมืองโกเบ โดยเน้นเที่ยวทางภาคใต้ของญี่ปุ่นและพาไปเที่ยวเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ด้วย


เลือกจองทริป Spring Flowers ช่วงเดือนเมษายน เพื่อชมวิวดอกไม้สวยๆ ที่หาดูได้เฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นเท่านั้น โดยทริปนี้จะพาคุณเดินทางตั้งแต่เหนือจดใต้ของญี่ปุ่นเลยเชียวล่ะ


หรือถ้าอยากไปร่วมเทศกาลดอกไม้ไฟคุมาโนะอันโด่งดัง ก็ต้องเลือกทริป Japan Explorer with Kumano Fireworks ที่เน้นเที่ยวภาตใต้ของญี่ปุ่น โดยจะไปเทียบท่าที่คุมาโนะในวันงานคือ 17 สิงหาคมพอดีเป๊ะ โดยทั้งสองทริปจะพาไปแวะเที่ยวเมืองปูซาน เกาหลีใต้ ด้วยเช่นกัน


What to explore

Tokyo, Japan โตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเลยคือ พระราชวังอิมพีเรียล วัดเซนโซจิ (วัดอาซากุสะ) โตเกียวทาวเวอร์ ตลาดปลาสึกิจิ และสวนสาธารณะอุเอะโนะ

Kobe, Japan โกเบเป็นเมืองท่าสำคัญที่อดีตและปัจจุบันถูกหล่อหลอมรวมกัน นอกจากแวะกินเนื้อย่างต้นตำรับแล้ว อย่าลืมไปดูบ้านสวยๆ ที่ย่านบ้านพักชาวต่างชาติคิตะโนะ และชมวิวบนยอดเขารอคโคะ

Nagoya, Japan อย่าพลาดชมปราสาทนาโงย่าสถานที่สำคัญของเมือง สัมผัสเทคโนโลยีและชมการจัดแสดงรถรุ่นใหม่ๆ ที่พิพิธภัณฑ์และโรงงานโตโยต้า ที่ถนนโอสุมีแก็ตเจ็ดทันสมัยให้ช้อปหลายร้าน

Osaka, Japan แลนด์มาร์กของที่นี่คือปราสาทโอซาก้า ย่านแสงสีโดทงโบริที่เป็นที่ตั้งของป้ายไฟกูลิโกะที่คนไทยรู้จักกันดี ควรแวะชมศาลเจ้าเก่าแก่สุมิโยชิไทชะ และอย่าพลาดถนนสายช้อปปิ้งไซบาชิ

Hakodate, Japan เดินเที่ยวและทานอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ชมป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกโกเรียวคาคุ เดินชิลชมโกดังอิฐแดงบริเวณท่าเทียบเรือ และนั่งรถกระเช้าขึ้นยอดเขาฮาโกดาเตะ

Akita, Japan เป็นเมืองที่มีธรรมชาติงดงาม เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ และโด่งดังจากน้ำพุร้อน สาเกของที่นี่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ส่วนสถานที่ห้ามพลาดคือทะเลสาบทาซะวะสีฟ้าครามสดใสที่ลึกถึง 4 เมตร

Kagoshima, Japan "เนเปิลส์แห่งตะวันออก" เต็มไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เพราะเมืองตั้งอยู่บนแผ่นดินที่ทรุดตัวหลังเกิดภูเขาไฟระเบิด ไม่ควรพลาดการแช่ออนเซ็นและชมวัฒนธรรมซามูไร

Okinawa, Japan เกาะใต้สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีธีมปาร์คสนุกๆ หลายแห่ง และอย่าพลาดการเยี่ยมชมปราสาทชูริ และเดินช้อปชิลๆ ที่ถนนโคคุไซโดริ

Kochi, Japan เรียนรู้ประวัติศาสตร์โบราณที่ปราสาทโคชิ ย้อนอดีตที่บ้านพักซามูไรโบราณและหออนุสรณ์ “ซากาโมโตะ เรียวมะ” บุคคลสำคัญของญี่ปุ่น และชมวิวที่ชายหาดคัทสึระฮามะ

Hiroshima, Japan ห้ามพลาดเลยคือมรดกโลก 2 แห่ง ได้แก่ อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า และศาลเจ้าลอยน้ำอิสึกุชิมะ ฮิโรชิม่ายังมีปราสาทโบราณและพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่งที่น่าไปเยือน

Miyazaki, Japan แวะชมซากปราสาทโอบิ สักการะศาลเจ้าอุโดะที่ซ่อนตัวอยู่ริมหน้าผาหันหน้าสู่ทะเล และชมหินและผืนทรายแปลกๆ บนเกาะขนาดเล็กอะโอะชิมะ ที่เชื่อมต่อกับฝั่งมิยาซากิด้วยสะพาน

Aomori, Japan เมืองเก่าแก่ทางตอนเหนือที่มีทัศนียภาพงดงาม เหมาะแก่การเดินป่าเป็นอย่างยิ่ง อาทิ ภูเขาฮักโกดะ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทฮิโรซากิ ที่อยู่คู่เมืองมานานกว่า 400 ปี

Taipei, Taiwan เมื่อมาถึงไทเป เมืองเอกของไต้หวัน ไม่ควรพลาดการชมอนุสรณ์สถานเจียงไคเชค ไหว้เจ้าแม่กวนอิม วัดหลงซานซื่อ ชมวิวและช้อปปิ้งที่ตึกไทเป 101 อันโด่งดัง

Busan, South Korea มาถึงปูซานควรไปเที่ยววัดโพโมซา วัดโบราณประจำเมือง และวัดแฮดอง ยงกุงซา ที่ตั้งอยู่ริมผาหิน และแวะชมบรรยากาศคึกคักและทานอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดปลาจากัลจิ

Korsakov, Russia ญี่ปุ่นเคยยึดครองเมืองนี้นานถึง 40 ปี เมืองนี้มีสถาปัตยกรรมทั้งเก่าใหม่ให้เดินชม รวมถึงโบสถ์ไม้เก่าแก่เซนต์นิโคลัส อย่าลืมช้อปของที่ระลึกจากรัสเซียติดมือกลับบ้านด้วย